เสียวหมี่เปิดตัว Mi 11 สมาร์ทโฟนแฟลกชิป พร้อมกล้องระดับสตูดิโอ ส่งตรงสู่ผู้ใช้ทั่วโลก

พร้อมด้วย Mi TV Q1 และ Mi Electric Scooter Pro 2 Mercedes-AMG Petronas F1 Team Edition

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 8 กุมภาพันธ์ 2564 – เสียวหมี่ ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัว  สมาร์ทโฟน Mi 11 สมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นล่าสุดของ Mi Series สำหรับผู้ใช้ทั่วโลก Mi 11 เป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดจากเสียวหมี่ พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้า1  ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 ชุดกล้องหลัง 3 ตัวความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ระบบบันทึกเสียงแบบภาพยนตร์ และการรองรับการชาร์จไร้สายสูงสุด 50W

ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ถึงขีดสุดด้วยกล้อง 108 ล้านพิกเซลและโหมดภาพยนตร์อัจฉริยะ 

เนรมิตสมาร์ทโฟนให้เป็นสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ด้วย Mi 11 ที่มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ให้มือสมัครเล่นถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวได้ราวกับผู้กำกับภาพยนตร์มือฉมัง กล้องหลักเป็นเลนส์ไวด์ความละเอียดสูงที่สุดในโลกถึง
108 ล้านพิกเซล ช่วยให้ถ่ายภาพได้คมชัดและบันทึกรายละเอียดได้ครบถ้วน เทียบเท่ากับกับการบันทึกภาพโดยใช้กล้อง DSLR หรือมิเลอร์เลสระดับมืออาชีพ นอกจากนี้เลนส์อัลตราไวด์ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและเลนส์เทเลมาโครความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ยังช่วยให้การบันทึกภาพทิวทัศน์มีความคมชัดขึ้น ทั้งยังช่วยให้ภาพที่ต้องการเน้นรายละเอียดมีเอฟเฟคโบเก้ที่สวยงาม กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล แบบ Punch Hole ช่วยลดขนาดขอบหน้าจอ ให้ผู้ใช้ดูดีทุกเวลาไม่ว่าจะเซลฟี่หรือระหว่างวิดีโอคอลกับเพื่อน 

Mi 11 ผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีอันก้าวล้ำของเสียวหมี่ ผสานฟีเจอร์อันยอดเยี่ยมทั้งด้านการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอมากมาย อาทิ โหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night Mode) ได้รับการปรับปรุงให้ถ่ายภาพแบบกลางคืนได้จากทั้งสามเลนส์ทั้งเลนส์ไวด์, เลนส์อัลตร้าไวด์และกล้องหน้า อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีการถ่ายวิดีโอแบบ Night Mode สร้างมาตรฐานใหม่ในวงการสมาร์ทโฟนด้วยระบบการลด Noise ในระดับไฟล์ RAW เพื่อให้ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกในเวลากลางคืน

มีความคมชัดยิ่งขึ้น ผู้ใช้ที่เป็นสายอาร์ตสามารถเลือกใช้งานโหมดบันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบอัจฉริยะ AI 6 ที่เปิดการทำงานได้ด้วยการกดเพียงคลิกเดียว อาทิ โหมด Parallel World จำลองและกลับฉากหลังให้ราวกับว่าบันทึกภาพเคลื่อนไหวอยู่ในโลกที่มีแต่กระจก หรือโหมด Freeze Frame Video ซึ่งจะหยุดและจำลองเฟรมหนึ่งของภาพเคลื่อนไหวเพื่อจำลองภาพเสมือนว่าส่วนหนึ่งของคลิปวิดีโอนั้นถูกหยุดเวลาไว้ แฟนภาพยนตร์น่าจะชื่นชอบโหมด Magic Zoom ที่จำลองการเคลื่อนไหวของกล้องราวกับว่ากล้องเคลื่อนที่เข้าและออกพร้อมกันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายทำที่พบมากในภาพยนตร์เขย่าขวัญ 

          เพื่อสร้างนิยามใหม่อีกขั้นของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน Mi 11 ยังมีระบบควบคุมการบันทึกภาพระดับเดียวกับสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ ด้วยเทคโนโลยีการบันทึกภาพแบบ HDR10+ และโหมด Pro Time-lapse ผู้ใช้ยังสามารถ
ปรับความเร็วชัตเตอร์ ค่า ISO รูรับแสง หรือระบบชดเชยแสงให้เหมาะสมกับสภาพแสงต่างๆ ได้เอง แม้ในสภาพแสงที่ไม่เป็นใจ นอกเหนือจากการบันทึกภาพระดับสตูดิโอแล้ว Mi 11 ยังมีคุณสมบัติการตัดต่อหรือปรับแต่งภาพที่มีเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมายรวมถึงเทคโนโลยี AI Erase 2.0 ที่ช่วยให้ผู้ใช้ลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้ในคลิกเดียว 

เห็นและได้ยินทุกรายละเอียดด้วยหน้าจอ AMOLED DotDisplay 120Hz ขนาด 6.81 นิ้ว และระบบเสียงจาก Harman Kardon

Mi 11มีหน้าจอที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในท้องตลาด โดยได้รับคะแนน A+ และรางวัลหน้าจอยอดเยี่ยมจาก DisplayMate สถาบันทดสอบหน้าจอชั้นนำระดับโลก Mi 11 ใช้หน้าจอ AMOLED DotDisplay 6.81 นิ้วที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม เสียวหมี่ส่งมอบนวัตกรรมหน้าจอที่ก้าวล้ำที่สุดด้วยความละเอียดสูงระดับ WQHD+และเทคโนโลยีการแสดงผลสีแบบ 10 บิต ให้รายละเอียดคมชัดและการเปลี่ยนการแสดงผลสีที่เป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Super Resolution ช่วยยกระดับวิดีโอความละเอียดต่ำขึ้นมาถึงความละเอียด WQHD+ ได้โดยไม่เพิ่มปริมาณการใช้ข้อมูล

Mi 11 มีอัตราการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ 480Hz และเซนเซอร์สแกนนิ้วใต้หน้าจอ ช่วยให้ผู้ใช้ปลดล็อกหรือใช้งานได้โดยไม่ต้องมีขอบหรือติ่งหน้าจอ ที่จะลดทอนขนาดของหน้าจอลง Mi 11 มอบประสบการณ์การใช้งาน

ที่เหนือระดับด้วยรูปลักษณ์ที่เหนือกาลเวลา ขอบโค้งมนทั้ง 4 ด้านและพื้นผิวด้านหลังแบบกระจก ให้ผู้ใช้รู้สึกดีขณะจับถือและเลื่อนหน้าจอ

Mi 11 มาพร้อมกับลำโพงคู่ที่ร่วมมือกับ ฮาร์แมน คาร์ดอน (Harman Kardon) ให้คุณภาพเสียงชั้นเลิศ อีกทั้งยังใช้กระจก Corning® Gorilla® Glass Victus™ ช่วยลดความความเสียหายจากการตกหรือร่วงหล่น ทั้งยังมีการเคลือบสารป้องกันคราบเหงื่อหรือไขมัน จึงสะท้อนแสงได้ดีแต่ไม่เกิดคราบลายนิ้วมือ สมาร์ทโฟน Mi 11 มี 2 สีให้เลือกคือสี Midnight Grey และ Horizon Blue 

ประสิทธิภาพขั้นสุดของโลกเพื่อก้าวนำหน้าทุกคน

Mi 11 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ใช้ขุมพลังชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 888 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่จะยกระดับประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนร่วมกับฮาร์ดแวร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยประมวลผล Adreno™ 660 GPU, 6th generation Qualcomm® AI engine และโมเด็ม X60 สมาร์ทโฟน Mi 11 จึงเพียบพร้อมทั้ง AI และ 5G2 


            Mi 11 ทำงานได้เร็วกว่า ทรงพลังกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่าสมาร์ทโฟนตระกูลเดียวกันรุ่นก่อนหน้าด้วยเทคโนโลยีหน่วยประมวลผลขนาด 5 นาโนเมตร (5nm) นอกเหนือไปจากการรองรับการเล่นเกมที่ความละเอียด 2K HDR ที่ 120 เฟรมต่อวินาที สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังใช้สถาปัตยกรรมหน่วยประมวลผลกลาง Octacore และ Arm Cortex-X1ที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษเพื่อประสิทธิภาพที่สูงยิ่งกว่าเดิม แรมแบบ LPDDR5 ความเร็ว 3,200MHz ช่วยให้อัตราการถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นจาก 5,500 เมกะบิตต่อวินาทีเป็น 6,400 เมกะบิตต่อวินาที 

Mi 11 มีระบบระบายความร้อน LiquidCool รุ่นใหม่ล่าสุด ออกแบบให้รองรับการเล่นเกมหรือการประมวลผลที่ใช้พลังสูงเพื่อช่วยให้สมาร์ทโฟนมีอุณหภูมิที่เย็นอย่างเหมาะสมตลอดเวลา แบตเตอรี่ความจุ 4,600 mAh (typ) นั้นรองรับการชาร์จแบบใช้สาย 55W การชาร์จแบบไร้สายที่กำลังไฟ 50W และการชาร์จให้อุปกรณ์อื่น (Reverse Charging3) ที่กำลังไฟ 10W และในกล่องยังมาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จ 55W GaN อันทรงพลัง ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด 

เสียวหมี่ยังมีเซอร์ไพรส์พิเศษสำหรับเหล่าเกมเมอร์ การเปิดตัว Mi 11 จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือระหว่างเสียวหมี่กับทีมผู้พัฒนาเกม Genshin Impact เกมยอดนิยมของโลกเกมหนึ่งประจำปี 2020 Mi 11 จะให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับเกม Genshin Impact ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเคย และนับจากการเปิดตัว Mi 11 เสียวหมี่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับผู้พัฒนาเกม MiHoYo ผ่านความร่วมมือทางกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและเยี่ยมยอดมากกว่าเคย อดใจรอรายละเอียดเพิ่มเติมเร็วๆ นี้!

ทำความรู้จักกับ MIUI 12.5 ขึ้นแท่น MIUI ที่ลื่นไหลที่สุด

MIUI 12.5 เป็นการอัปเดตขั้นกลางจาก MIUI 12 ที่ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ4 หลังจากการปรับปรุงระบบ UI อัตราการใช้ CPU ลดลงถึง 22% และลดอัตราการใช้พลังงานลงได้ถึง 15 % ให้ประสิทธิภาพและการประมวลผลกราฟิกลื่นไหลกว่าเดิม

MIUI 12.5 จะทำให้หน้าจอลื่นไหลกว่าที่เคยเป็นมา ใน MIUI เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ การเคลื่อนไหวและการตอบสนองของหน้าจอจะประมวลผลโดยใช้แกนประมวลผลเดียว คำสั่งต่างๆ จึงจะต้องรอการประมวลผลจาก CPU กลาง หากมีคำสั่งรอในระบบมากไปก็จะทำให้การเคลื่อนไหวและการตอบสนองหน้าจอช้าลงหรือค้าง MIUI 12.5 ออกมาแบบให้รองรับการเคลื่อนไหวและการตอบสนองของหน้าจอที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมเนื่องจากมีการใช้แกนประมวลผลเฉพาะ จึงตอบสนองได้ทันทีและไม่มีคำสั่งอื่นในระบบมาแทรกได้ 

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ MIUI 12.5 คือการถอนการติดตั้งแอปที่มากับระบบ กล่าวคือผู้ใช้สามารถเลือกถอดการติดตั้งแอปส่วนใหญ่ที่มากับระบบได้ อีกทั้งยังสามารถเลือกซ่อนแอปที่ฝังมากับแกนของระบบได้ 

สมาร์ทโฟนกลุ่มแรกที่จะได้อัปเดต MIUI 12.5 ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ได้แก่ Mi 10T, Mi 10T Pro, Mi 10, Mi 10 Pro และ Mi 11 ส่วนสมาร์ทโฟนอีก 11 รุ่นจะได้รับการอัปเดตในรอบถัดไป และเสียวหมี่จะแจ้งรายละเอียดการอัปเดตของสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ทางเว็บไซต์ MIUI.com

สมาร์ทโฟน Mi 11 มีให้เลือก 2 ความจุ ได้แก่ RAM 8 GB + ROM 128 GB และ RAM 8 GB + ROM 256 GBที่ใช้ RAM แบบ LPDDR5 ความเร็ว 3200MHz และเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบ UFS 3.1 Mi 11 ราคาเริ่มต้นที่ €749 จะวางจำหน่ายในช่องทางของเสียวหมี่และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์นี้

เสียวหมี่พร้อมมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า โดยสมาร์ทโฟน Mi 11 มาพร้อมการประกันตัวเครื่อง 2 ปี มากกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆ และผู้ใช้ยังสามารถรับบริการซ่อมหน้าจอโดยไม่มีค่าใช้จ่าย5 ณ ศูนย์บริการอย่างเป็นทางการ
ของเสียวหมี่ได้ 1 ครั้งในช่วงระยะประกัน 12 เดือนแรก รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้ที่เว็บไซต์ mi.com

Mi 11 
Display6.81” AMOLED quad-curve DotDisplay with TrueColor20:9 Aspect ratio, WQHD+120 Hz refresh rate480Hz touch sampling rateColor contrast ratio: 5,000,000:1 (typ)900nits (typ), 1500nits max brightness (typ)Color gamut: Supports DCI-P3 Color accuracy: JNCD≈0.38,△E≈0.4110-bit color depthHDR 10+, SGS Eye Care Display Certification
ColorAnti-glare frosted glass: Midnight Gray/ Horizon Blue
BodyCorning® Gorilla® Glass Victus™
Dimensions164.3mm x 74.6mm x 8.06mm 196g(glass)
PerformanceQualcomm® Snapdragon™ 8885nm power-efficient manufacturing processOcta-core design, ultra-large core Arm Cortex-X1AdrenoTM 660 GPU, 6th generation Qualcomm® AI engine X60 modem for lightning-fast 5G connectivityEnhanced LPDDR5 3200MHz RAM + UFS 3.1 storage Variants: 8GB+128GB, 8GB+256GB
Rear camera108MP wide-angle camera 1/1.33” sensor size, f/1.85, 7P lens – OIS, AF 0.8μm pixel size, 1.6μm 4-in-1 Super Pixel  13MP ultra-wide angle camera  123° FOV, f/2.4 aperture 5MP telemacro cameraf/2.4, AF (3cm-10cm)
Front camera20MP in-display selfie camera0.8μm pixel size, 1.6μm 4-in-1 Super Pixelf/2.4 aperture
ConnectivityDual SIM, dual 5G standby Wi-Fi 6Multi-functional NFC and IR blasterUSB Type-C
UnlockIn-screen fingerprint sensor with heart rate monitoring Face unlock
Charging4,600mAh (typ) battery55W wired and 50W wireless fast charging10W reverse wireless charging
AudioDual speakers, SOUND BY Harman Kardon Hi-Res Audio CertificationHi-Res Audio Wireless Certification
MotorX-axis linear vibration motor
SystemMIUI 12 based on Android 10
Storage variants8GB+128GB8GB+256GB

นอกจากนี้ เสียวหมี่เฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลกของ Mi 11 ด้วยป้ายโฆษณา LED ที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริเวณหน้าศูนย์การค้า CentralWorld เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 19.30 – 20.30 น. ถือเป็นการประกาศการเปิดตัวของสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของเสียวหมี่อย่างเป็นทางการ เป็นเสมือนการจุดพลุการประกาศศักดาฉลองความยิ่งใหญ่ของเสียวหมี่ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีชั้นนำของโลก

ยกระดับความบันเทิงด้วย Mi TV Q1 75” สมาร์ททีวีระดับพรีเมียม

นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังได้เปิดตัว Mi TV Q1 ขนาด 75 นิ้ว สมาร์ททีวีระดับพรีเมียม หน้าจอ QLED 4K เทคโนโลยี Quantum Dot ให้สีสันชัดสมจริง ด้วยระบบสี NTSC 100% ให้สีที่แม่นยำถึง 1.07 พันล้านเฉด ยกระดับประสบการณ์การรับชมไปอีกขั้นด้วยระบบภาพ Dolby Vision®️ ความละเอียดระดับ HDR10+ ระบบเสียงสเตอริโอด้วยลำโพง 30Wมากถึง 6 ตัวและยังรองรับระบบเสียงแบบ Dolby AudioTM และ DTS-HD อีกด้วย Mi TV Q1 มาพร้อมดีไซน์เพรียวบาง ด้านนอกเคลือบแบบเมทัลลิค จอภาพไร้ขอบให้มุมมองการรับชมเต็มตา 178 องศา Mi TV Q1 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android TVTM 10 ที่ สามารถเข้าถึงภาพยนตร์กว่า 700,000 เรื่องและแอปต่างๆ ได้มากกว่า 5,000 แอปจาก Google Playstore รวมถึงแอปยอดนิยมอย่าง Netflix, YouTube และ Amazon Prime VDO ที่ติดตั้งมาพร้อมกับ Mi TV Q1

สัมผัสประสบการณ์ขับเคลื่อนแบบพลังงานไฟฟ้าอย่างเหนือระดับด้วย Mi Electric Scooter Pro 2 รุ่น Mercedes-AMG Petronas F1 Team Edition

เสียวหมี่ยังได้เปิดตัวสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้า Mi Electric Scooter Pro 2 ในโฉม Mercedes-AMG Petronas F1 Team Edition ที่ออกแบบร่วมกับ Mercedes-AMG Petronas F1 ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุด 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและสามารถวิ่งได้ไกลถึง 45 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ทำให้สกูเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ส่งมอบประสบการณ์การขับขี่อย่างเหนือระดับที่เป็นการพบกันของระบบวิศวกรรมของเสียวหมี่และงานดีไซน์ชั้นเลิศ

# # #

1 Mi 10

2 คุณสมบัติการรองรับสัญญาน 5G แตกต่างไปในแต่ละประเทศและภูมิภาค

3 Mi 11 ไม่มีอุปกรณ์เสริมสำหรับ Reverse Charging ให้มาด้วย

4 MIUI 12.5 จะสามารถให้ดาวน์โหลดได้หลังจากการอัปเดต OTA ในอนาคต

5 บริการเปลี่ยนหน้าจอ 1 ครั้งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายภายใน 1 ปี บริการนี้อาจแตกต่างไปตามแต่ละประเทศและภูมิภาคโปรดศึกษาข้อตกลงและเงื่อนไข และข้อมูลเพิ่มเติมที่ mi.com