Vivo เปิดตัว V21 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด กล้องหน้า 44MP พร้อมกันสั่น OIS รุ่นแรกของโลก รองรับ 5G กับดีไซน์บางเบาสุดมินิมอล

  • Vivo ประกาศเปิดตัว Vivo V21 5G สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดจากตระกูล V Series กับดีไซน์บางเบาสุดมินิมอล
  • พร้อมเปิดตัวพรีเซนเตอร์คนล่าสุด ‘วิน-เมธวิน’ ตัวแทนคนรุ่นใหม่สายเซลฟี ส่งแคมเปญ #SelfieBringUsCloser กับบทเพลงพิเศษ ‘แค่ไหนก็ใกล้ (Closer)’
  • ตอกย้ำผู้นำด้านนวัตกรรมสมาร์ตโฟนสำหรับสายเซลฟี ด้วยกล้องหน้า 44MP ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS รุ่นแรกของโลก
  • รองรับ Super Night Mode และไฟ Dual Selfie Spotlight พร้อมกล้องหลัง 64MP ที่มีกันสั่น OIS เช่นกัน ให้เก็บภาพคมชัดทุกโมเมนต์สำคัญ
  • Vivo V21 5G สมาร์ตโฟนรุ่นแรกในไทย ที่รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G แบบ Dual Mode ทั้ง SA และ NSA
  • รองรับอัตราการรีเฟรชหน้าจอ 90Hz พร้อมดีไซน์มินิมอลโดดเด่น โฉบเฉี่ยว บางเบา ใน 3 สีใหม่ Dusk Blue, Sunset Dazzle และ Arctic White ในราคาเริ่มต้น 12,999 บาท
  • ประกาศเป็นผู้สนับสนุนสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปประจำปี 2020 และ 2024 อย่างเป็นทางการ

กรุงเทพฯ 10 พฤษภาคม 2564 – Vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก ประกาศเปิดตัว Vivo V21 5G สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด และเป็นรุ่นแรกจากตระกูล V Series ประจำปีนี้ กับสโลแกน OIS Night Selfie, For You Best Moment’ โดยได้หนุ่ม ‘วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร’ นักแสดงหนุ่มมากความสามารถระดับเอเชียมาเป็นพรีเซนเตอร์ พร้อมถ่ายทอดเรื่องราวความ ‘ใกล้ชิด’ ของฟีเจอร์เซลฟีผ่านบทเพลงพิเศษ ‘แค่ไหนก็ใกล้ (Closer)’

Vivo V21 5G มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 44MP[1] โดยเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่กล้องหน้ารองรับระบบกันสั่นแบบ OIS ที่ทำงานผ่านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ภายในตัวเครื่อง รวมถึงยังรองรับ Super Night Mode พร้อม Dual Selfie Spotlight ให้ภาพเซลฟีสวย คมชัด โดดเด่น ทุกช่วงเวลาสำคัญไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน กล้องหลัง 64MP รองรับ OIS และ AF (Auto Focus) พร้อมโหมด Dual View Video ถ่ายคอนเทนต์วิดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ทำงานบนหน้าจอความละเอียดสูงที่รองรับอัตราการรีเฟรช ที่ 90Hz เต็มที่กับทุกการเชื่อมต่อแบบไม่สะดุดรองรับเครือข่ายสัญญาณ 5G แบบ Dual Mode ทั้ง SA และ NSA เพิ่มความมั่นใจกับดีไซน์มินิมอลแบบใหม่ ที่ทั้งบางและเบาที่สุดจาก Vivo กับ 3 สีสันโดดเด่นสะดุดตา Dusk Blue, Sunset Dazzle และ Arctic White เปิดตัวในราคาเพียง 12,999 บาท สำหรับรุ่น ROM 128GB + RAM 8GB และราคา 14,999 บาท สำหรับรุ่น ROM 256GB + RAM 8GB

อัดแน่นด้วยฟีเจอร์กล้องคุณภาพ รองรับกันสั่น OIS เก็บครบทุกโมเมนต์สำคัญ

Vivo V21 5G ตอกย้ำตำนานความเป็นที่สุดของสมาร์ตโฟนสำหรับสายเซลฟี ด้วยกล้องหน้าใหม่ความละเอียด 44MP คมชัดทุกการเคลื่อนไหว ตื่นตาตื่นใจไปกับการเซลฟีที่เก็บครบทุกรายละเอียด กับกล้องหน้าหนึ่งเดียวที่มาพร้อมเทคโนโลยีกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) เจ้าแรกของโลก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบกันสั่นที่ทำงานด้วยฮาร์ดแวร์แบบ 4 แกน (4 Axis) ช่วยล็อกตำแหน่งเลนส์ไว้ ณ จุดที่โฟกัสภาพ และขยับสวนทางกับทิศทางที่สมาร์ตโฟนสั่นไหวไป เพื่อหักล้างการสั่นไหวนั้นๆ และทำให้เลนส์นิ่งที่สุดโดยไม่ทำให้สูญเสียรายละเอียดของภาพ หมดปัญหาภาพเบลอ ได้ภาพถ่ายที่คมชัดมากขึ้น ผสานการทำงานร่วมกับอีกหนึ่งเทคโนโลยีกันสั่น EIS (Electronic Image Stabilization) ที่ทำงานด้วยซอฟต์แวร์ โดยตัวกล้องสามารถวิเคราะห์รายละเอียดที่อยู่ในเฟรมภาพได้แบบเรียลไทม์ พร้อมประมวลผลเมื่อมีการสั่นไหวและชดเชยการสั่นนั้นให้ได้ภาพออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด และด้วยสองเทคโนโลยีกันสั่นที่ใส่เข้ามาใน Vivo V21 5G นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพและวิดีโอที่นิ่งและเรียบเนียนมากขึ้น เก็บรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้นกับฟีเจอร์ 4K Selfie Video ถ่ายวิดีโอเซลฟีความคมชัดระดับ 4K ด้วยกล้องหน้าแบบมืออาชีพ พร้อมถ่ายวิดีโอให้เสถียรมากขึ้นกับฟีเจอร์ Ultra Stable Video ไม่ว่าจะเดินหรือวิ่ง ก็สามารถบันทึกวิดีโอเซลฟีได้อย่างมั่นคง

นอกจากนี้กล้องของ Vivo V21 5G ยังมาพร้อมกับระบบโฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus – AF) ไม่ว่าจะถ่ายระยะใกล้หรือไกลแค่ไหน ก็สามารถล็อกภาพได้อย่างคมชัดไม่หลุดโฟกัส มาพร้อมกับฟีเจอร์ Dual Selfie Spotlight ที่ช่วยปรับแสงสว่างให้กับใบหน้า ให้ภาพเซลฟีสวยงามยามค่ำคืนได้เพียงแค่ปลายนิ้ว และฟีเจอร์เพิ่มความสว่างตอนกลางคืน กับโหมด Spotlight Selfie Video ที่จะปรับค่าความสว่างในวิดีโอให้สวยโดดเด่นอย่างเป็นธรรมชาติ รวมทั้งฟีเจอร์ Super Night Selfie ช่วยประมวลภาพหลายเฟรมรวมกันเพื่อลดการเกิดนอยส์ (Noise) ช่วยให้ภาพถ่ายกลางคืนชัดเจนทุกรายละเอียด มาพร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพ ISOCELL Plus 2G เทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรมที่มีการอัปเกรดเพิ่มประสิทธิภาพของการรับแสง และความสว่างที่ดียิ่งขึ้น พร้อม AI Night Portrait ถ่ายภาพบุคคลแม้ในที่แสงน้อย หรือตอนกลางคืนได้อย่างสวยงาม

สัมผัสประสบการณ์การเป็นผู้กำกับมืออาชีพพร้อมบอกเล่าเรื่องราวใหม่ๆ ด้วยฟังก์ชัน Dual-View Video บันทึกวิดีโอได้พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เก็บภาพได้ครบทุกรายละเอียด สนุกกับการถ่ายวิดีโอยิ่งขึ้น นอกจากนี้ กล้องหน้ายังสามารถถ่ายภาพเซลฟีได้หลากหลายสไตล์ ทั้งฟิลเตอร์แบบใหม่ ที่ช่วยสร้างสรรค์ภาพเซลฟีได้หลากหลายบ่งบอกสไตล์ความเป็นตัวตนได้อย่างชัดเจน เอฟเฟกต์ใบหน้าสำหรับเด็ก สามารถย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กแห่งความทรงจำอีกครั้ง และโหมด Group Selfies ปรับศีรษะของบุคคลในภาพให้เล็กลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เก็บได้ครบทุกรายละเอียด ไม่ต้องกังวลเรื่องการถ่ายเซลฟีกลุ่มอีกต่อไป สร้างสรรค์ภาพถ่ายใหม่แบบไร้ขีดจำกัดกับฟีเจอร์ Double Exposure รวมภาพถ่ายสองภาพให้เป็นหนึ่งเดียว สร้างสรรค์ภาพถ่ายได้อย่างมืออาชีพเพียงแค่ปลายนิ้ว

นอกจากนี้ Vivo V21 5G ยังมาพร้อมกับ กล้องหลังความละเอียด 64MP พร้อมระบบกันสั่น OIS แบบ 4 แกน ออกไปท่องโลกกว้างได้อย่างไม่สะดุด แม้ซูมใกล้แค่ไหนรายละเอียดของภาพก็ยังคมชัด เก็บภาพครบทุกองค์ประกอบด้วยเลนส์ถ่ายภาพมุมกว้าง Wide Angle 120 องศา[2] ความละเอียด 8MP พร้อมเลนส์ถ่ายภาพระยะใกล้ Super Macro ระยะ 4 เซนติเมตร ความละเอียด 2MP สร้างสรรค์ภาพถ่ายในมุมมองที่แปลกตา และ รูปแบบศิลปะ artistic styles ตัวช่วยสำคัญที่ให้ผู้ใช้งานเลือกใช้รูปแบบการถ่ายภาพได้ตามต้องการ

สะกดทุกสายตา กับดีไซน์ใหม่แบบมินิมอล

Vivo V21 5G มาพร้อมกับดีไซน์หน้าจอโค้ง 2.5D ความหนาเพียง 7.29 มม.[3] และน้ำหนักเพียง 176 กรัม[4] จึงให้ความรู้สึกบางเบา ผสานกับดีไซน์มินิมอล ขอบเรียบด้านข้างเป็นแนวตรงที่เน้นความเรียบง่ายให้ดูทันสมัย ตัวเครื่องเป็นทรงเหลี่ยมแบบมีระดับสัมผัสรับกับฝ่ามือ ประกอบเข้ากับหน้าจอ AMOLED FHD+ ขนาด 6.44 นิ้ว[5] ให้สีสันสดใส คมชัดสมจริง ความสว่าง 500nits / HBM 800nits อัตราส่วนคอนทราสต์ 6000000:1 รองรับ HDR 10+ และรองรับการปกป้องดวงตา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 90Hz[6] สามาถใช้งานหน้าจอได้อย่างเพลิดเพลิน มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลอย่างไม่มีสะดุด เต็มที่กับทุกคอนเทนต์ความบันเทิงระดับโลกบนฝ่ามือ

นอกจากนี้เทคโนโลยี AG Matte Glass ยังช่วยเพิ่มความสวยงาม หรูหรา ให้กับตัวเครื่องสัมผัสถึงความเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น  และด้วยพื้นผิวที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ช่วยป้องกันสมาร์ตโฟนจากรอยนิ้วมือ พร้อมสัมผัสความเป็นธรรมชาติ เติมสีสันสดใสให้กับทุกช่วงเวลากับ 3 สีใหม่ ทั้งสี Dusk Blue สีดำและสีน้ำเงินที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เสมือนการเต้นรำบนท้องฟ้า ท่ามกลางการบรรเลงบทเพลงซิมโฟนีของไวโอลิน สี Sunset Dazzle ภาพของเมฆสีแดงที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ ท่ามกลางแสงอันสวยงามของดวงอาทิตย์ยามเย็นที่กำลังจะตกลงมาบรรจบกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ และ สี Arctic White สัมผัสดินแดนขาวบริสุทธิ์อันกว้างใหญ่ เพื่อมอบความเงียบสงบให้แก่ผู้ใช้งาน พร้อมการออกแบบตัวกล้องด้านหลังแบบ Dual Tone Step[7] จัดวางตัวกล้องได้อย่างมีมิติ และดูสง่างาม

เต็มที่กับทุกการเชื่อมต่อ พร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลัง

Vivo V21 5G รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณ 5G แบบ Dual Mode ทั้งแบบ SA และ NSA[8] เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย[9] และรองรับ 5G + 5G Dual SIM[10] ให้ความเร็วของอินเทอร์เน็ตราบรื่นแบบไม่มีสะดุด ผสานการทำงานร่วมกับชิปเซ็ต MTK Dimensity 800U octa-core ขนาด 7nm ทำงานที่ความเร็วสูงสุด 2.4 GHz ให้การใช้งานเริ่มต้นในการเปิดแอปพลิเคชันเร็วขึ้น เต็มที่กับทุกกิจกรรมแบบไม่ต้องง้อสายชาร์จด้วยนวัตกรรมใหม่ของ Vivo ที่มาพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูง ที่มีขนาดบางและเบากว่าแบตเตอรี่รุ่นอื่นที่มีความจุเท่ากัน โดย Vivo V21 5G มีความจุที่ 4000 mAh[11] รองรับการชาร์จเร็วที่ 33W สามารถชาร์จได้สูงสุด 63% ในเวลา 30 นาที[12] เพื่อให้สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน พร้อม Extended RAM เพลิดเพลินกับการใช้งานที่เร็วยิ่งขึ้น บนพื้นฐาน RAM 8GB[13] ทำให้สามารถอัปเกรดพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น 8GB+3GB เรียกใช้แอปพลิเคชันได้มากเท่าที่ต้องการในความเร็วที่มากยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมกับ UFS 2.2 (Universal Flash Storage) เวอร์ชันอัปเกรดใหม่ให้มีความเร็วในการเขียนสูงถึง 110% ความเร็วในการอ่าน 95% ความเร็วในการติดตั้งแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ (เกม) เพิ่มขึ้น 10% และคัดลอกไฟล์ขนาดใหญ่ ในความเร็วที่เพิ่มขึ้น 20% จากเวอร์ชันก่อนหน้า[14] ช่วยประหยัดเวลาได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 11.1 ยังได้นำเสนอไอคอนแบบใหม่ล่าสุด มอบความเพลิดเพลินสำหรับการรับชมภาพคุณภาพสูง เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ฟีเจอร์ Jovi Home ที่ช่วยรวบรวมแอปพลิเคชันทั้งหมดไว้ด้วยกัน พร้อมสไตล์การออกแบบที่ใช้งานง่าย และซาวด์แทร็ก White Noise ที่มีให้เลือกใช้งานฟรีกว่า 7 รายการ ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับฟังเสียงผ่าน Vivo V21 5G ได้อย่างลงตัว

จับมือกับพาร์เนอร์ชั้นนำระดับโลก
Vivo ประกาศความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชั้นนำระดับโลกอย่าง สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า (UEFA) สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปประจำปี 2020 และ 2024 โดยบทบาทของ Vivo คือการเป็น โกลบอล สมาร์ตโฟน (Global Smartphone) ของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดยทั้งยูฟ่าและ Vivo ต่างแบ่งปันความหลงใหลต่อกีฬาฟุตบอลผ่านความสมบูรณ์แบบของอุปกรณ์สมาร์ตโฟน รวมถึงนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างและน่าตื่นเต้นแก่แฟนคลับทั่วโลก โดยการร่วมมือครั้งนี้นับเป็นคำมั่นสัญญาระยะยาวของ Vivo ที่จะส่งมอบประสบการณ์ผ่านผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมและคุณภาพต่อภูมิภาคยุโรปและผู้บริโภคทั่วโลกอีกด้วย

Vivo V21 5G เปิดให้จับจองเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • รุ่น ROM 128GB สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 14 พ.ค. 64
  • รุ่น ROM 128GB สี Arctic White จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64
  • รุ่น ROM 256GB  สี Dusk Blue และ Sunset Dazzle จองได้ตั้งแต่ 10 – 19 พ.ค. 64

พิเศษสำหรับแฟน Vivo ตัวจริง! สั่งจอง Vivo V21 5G รุ่น ROM 128GB รับไปเลยทันที VIP Card มูลค่า 3,999 บาท (ประกันตัวเครื่องเพิ่มอีก 1 ปี + ประกันจอแตก 1 ปี / 1 ครั้ง) พร้อม ลำโพงบลูทูธ มูลค่า 1,199 บาท และสำหรับผู้ที่สั่งจอง Vivo V21 5G รุ่น ROM 256GB จะได้รับ VIP Card มูลค่า 3,999 บาท (ประกันตัวเครื่องเพิ่มอีก1 ปี + ประกันจอแตก 1 ปี / 1 ครั้ง) ลำโพงบลูทูช มูลค่า 1,199 บาท พร้อมมีสิทธิ์ลุ้นรับรอง ไดร์เป่าผม Dyson มูลค่า 15,900 บาทสามารถจับจองเป็นเจ้าของ Vivo V21 5G ก่อนใครได้แล้ววันนี้ที่ Vivo Brand Shop ทุกสาขา ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทาง Vivo Official Online Store[15] รวมถึงร้านค้าออนไลน์ชั้นนำทั้ง Lazada[16]Shopee[17] และ JD Central[18] ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.vivo.com/th