รีวิว เล่าให้ฟังหลังใช้ PICO 4 Ultra เปิดโลก VR/MR ด้วยสเปกระดับพรีเมียม

สำหรับใครที่อยากเปิดโลกแห่งอนาคตด้วยอุปกรณ์ VR สุดล้ำ วันนี้พวกเราทีมงาน GizmoTH เรามีแว่นตา VR (Virtual Reality) หรือ MR (Mixed Reality) สเปกแจ่มๆ จากค่าย PICO มารีวิวทดสอบให้ชมกันครับ นั่นก็คือ PICO 4 Ultra โดยรุ่นนี้่มีจุดเด่นที่น่าสนใจหลายอย่าง

รีวิว เล่าให้ฟังหลังใช้ PICO 4 Ultra เปิดโลก VR/MR ด้วยสเปกระดับพรีเมียม

ไม่ว่าจะเป็นการมาพร้อมดีไซน์สวยงาม ดูทันสมัยน่าใช้ รวมถึงมีการปรับดีไซน์การออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า และยังได้ชิปเซตรุ่นใหม่พลังแรง Snapdragon XR2 Gen2 ที่ยกระดับการประมวลผลกราฟฟิกเกมหรือแอปพลิเคชันระดับสูงได้อย่างลื่นไหล และยังเพิ่ม PICO Motion Tracker สำหรับติดตามการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่บริเวณขา เพิ่มลูกเล่นให้กับการทำกิจกรรม โดยเฉพาะคนที่ชอบการออกกำลังกายรับรองว่าต้องชอบครับ แต่จะเป็นอย่างไรเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในรีวิวจากการทดสอบมาเลยครับ

PICO 4 Ultra ด้านการออกแบบยังคงคอนเซ็ปต์จากรุ่นเดิม ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีครับ เพราะดีไซน์ของรุ่นนี้ทำได้ดูดีอยู่แล้ว โดยเน้นที่สีขาวดูสะอาดตา ตัดด้วยเส้นสายสีเทาที่ดูลงตัว ด้านหน้ามีส่วนสีดำบริเวณแว่นตา พร้อมด้วยเลนส์และเซ็นเซอร์ต่างๆ แทบจะรอบตัว

ที่น่าสนใจคือการวางตำแหน่งของชิ้นส่วนภายในที่ยังคงทำได้ดี โดยเฉพาะการเฉลี่ยน้ำหนักของอุปกรณ์ ซึ่งถ่วงดุลด้านหน้าและหลังได้อย่างพอเหมาะ ด้านหน้ามีน้ำหนักจากเลนส์ต่างๆ ส่วนด้านหลังจะเป็นที่เก็บแบตเตอรี่ ทำให้เวลาใส่ไม่รู้สึกหน่วงไปด้านหน้าหรือด้านหลังเพียงอย่างเดียว ช่วยให้รู้สึกสบายและใส่ได้นาน

ปุ่มควบคุมต่างๆ จะถูกวางไว้บริเวณด้านขวาครับ ทั้งปุ่ม Power และปุ่มควบคุมเสียง ส่วนวัสดุต่างๆ จะใช้เกรดค่อนข้างดี ให้สัมผัสที่นุ่มนวล สวมใส่ได้สบายมาก และอุปกรณ์ถูกออกแบบให้สามารถใช้ร่วมกันได้ทุกคนในครอบครัว เพราะมีแถบปรับระดับได้ทั้งในส่วนของสายคาดด้านบน และแถบรอบศีรษะ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กๆ ที่สามารถเล่นได้แล้ว หรือจะเป็นผู้ใหญ่ที่ศีรษะใหญ่อย่างผู้รีวิว ก็สามารถปรับให้ใส่ได้กระชับ พอเหมาะ ไม่แน่นหรือหลวมเกินไปได้สบาย อันนี้ดีมาก

นอกจากการควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวร่างกายแล้ว PICO 4 Ultra ยังมาพร้อมจอยคอนโทรลเลอร์ที่สวยงาม และในเวอร์ชั่นใหม่นี้ ยังมีการปรับดีไซน์ให้กะทัดรัดขึ้น เพราะตัดส่วนวงแหวนออกไป เหลือเพียงตัวคอนโทรลเลอร์ ทำให้ลดพื้นที่จัดเก็บ พกพาไปไหนได้สะดวก และจับได้สะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับการใช้งานก็ไม่ยากเลยครับ โดยเฉพาะคนที่เคยเล่นเกมคอนโซลมาก่อน การควบคุมนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย โดยเมื่อเราสวมใส่ PICO 4 Ultra แล้ว ภาพที่เราเห็นจะใช้คอนโทรลเลอร์เหมือนเป็นรีโมทที่มีแสงนำทางไปยังเมนูต่างๆ การใช้งานก็แค่ชี้ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นก็คลิกเลือกเท่านั้น

หน้าตาอินเทอร์เฟสก็คล้ายการใช้งานมือถือหรือแท็บเล็ตครับ ดังนั้นใครที่กลัวว่าจะเล่นไม่เป็นไม่ต้องห่วงเลย และสำหรับการใช้งานครั้งแรก ระบบจะมีคำแนะนำการควบคุมและใช้งานให้ด้วยเป็นสเตปอย่างง่าย

และขึ้นชื่อว่า Snapdragon XR2 Gen 2 ซึ่งเป็นชิประดับสูงสำหรับอุปกรณ์สวมใส่ของ Qualcomm ด้วยแล้ว อุ่นใจด้านการประมวลผลได้เลยครับ ว่าจะให้ประสบการใช้งานที่สมบูรณ์แบบที่สุดรุ่นหนึ่งในปัจจุบันแน่นอน

นอกจากนี้ชิปยังทำงานร่วมกับ RAM ที่ค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับอุปกรณ์คู่แข่งในตลาด ซึ่งให้เยอะถึง 12GB และหน่วยความจำภายในถึง 256GB แบบ UFS 3.1 ที่โอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็ว ทำให้การใช้งานค่อนข้างลื่นไหล

รวมถึงในรุ่นใหม่นี้ยังได้ PICO Motion Tracker สำหรับติดตั้งบริเวณขาของผู้ใช้ ทำให้ได้มิติการควบคุมที่ลึกยิ่งขึ้น เหมาะมากสำหรับการออกกำลังกายหรือเล่นแอปที่ติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย ตรงนี้ผู้รีวิวเอามาเล่นเกมพวกเตะบอล ชกมวย หรือพวกโยคะนี่ก็เหมาะ ใครที่หาอุปกรณ์ไว้ออกกำลังกายกับสมาชิกในครอบครัว แนะนำเลยครับ รับของว่าเล่นสนุกและได้ประโยชน์กับสุขภาพแน่นอน

Conclusion

โดยสรุปนะครับ PICO 4 Ultra เป็นอีกอุปกรณ์ที่น่าสนใจมาก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีประโยชน์ไม่ใช่แค่เฉพาะความบันเทิงเท่านั้น เพราะแว่นตา VR/MR นี้เหมาะมากสำหรับทั้งการรับชมคอนเท้นต์ออนไลน์ การเล่นเกม หรือเล่นแอปต่างๆ แล้ว ยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสมาชิกในครอบครัวให้ทำกิจกรรมร่วมกัน คือสามารถใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายภายในบ้านได้อีกด้วย ยิ่งตอนนี้นอกบ้านมีฝุ่น PM 2.5 เยอะด้วย ออกกำลังกายในบ้านสนุกขึ้นอีกเยอะแน่นอน รวมถึงยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ให้ความรู้สำหรับเด็กๆ เพราะภายในจะมีคอนเท้นต์ประเภทแนะนำสถานที่ต่างๆ เช่น กำแพงเมืองจีน สวนสัตว์ หรือชายหาดในต่างประเทศ ช่วยให้เด็กได้ความรู้เหมือนกับอยู่ในสถานที่นั้นๆ จริงเลยครับ

PICO 4 Ultra วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยครับ โดยมีราคาเปิดตัวที่ 19,990 บาทสำหรับตัวแว่นตา และ 2,990 บาทสำหรับ Motion Tracker สามารถหาซื้อได้ตามตัวแทนจำหน่ายชั้นนำทั่วไป หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/PICOXRThailand/ ได้เลยครับ