เอเอเอสฯ ชูกลยุทธ์เอาใจสายรถสปอร์ตเน้นสร้างประสบการณ์การขับขี่ยกทัพรถปอร์เช่สายพันธุ์แรง จัดกิจกรรม Porsche World Roadshow 2021

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ชูกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ทดสอบการขับขี่ สนองนโยบาย เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking after YOU and your CAR) คว้าทีมผู้เชี่ยวชาญการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ (Porsche Instructor) มืออาชีพที่ผ่านการคัดสรรจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนี มาให้คำแนะนำและสอนเทคนิคการขับขี่อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ พร้อมยกทัพรถปอร์เช่สายพันธุ์แรงครบครันทุกรุ่น จัดกิจกรรม Porsche World Roadshow 2021 เอาใจผู้ชื่นชอบความแรงคาดกระตุ้นยอดขายตลอดปี ได้ไม่ต่ำกว่า 1,500 คัน โดยกิจกรรมจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 6 – 14 พฤศจิกายน 2564 ณ สนามปทุมธานี สปีดเวย์

มร. ปีเตอร์ โรห์เวอร์ กรรมการผู้จัดการปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “สำหรับธุรกิจรถสปอร์ตในช่วงปี 2021 ที่ผ่านมา ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่ชื่นชอบความแรงและความหรูของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับว่าค่อนข้างสวนกระแสกับสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยมียอดส่งมอบในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2021 อยู่ที่ 1,142 คัน นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ได้รับการตอบรับด้วยดีเสมอมา ซึ่งแน่นอนว่าแม้เราจะมีรถหรูรุ่นใหม่ๆ ที่มีสมรรถนะดีเข้ามาตลอดทั้งปี แต่สิ่งหนึ่งที่เราพยายามเน้นย้ำอยู่เสมอคือการบริการที่มีคุณภาพระดับสากล โดยเน้นกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ในการขับขี่เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส ได้ลอง และได้เห็นสมรรถนะการขับขี่ของรถอย่างใกล้ชิด จึงเป็นที่มาในการจัดกิจกรรม Porsche World Roadshow 2021 ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 9 โดยร่วมกับ ปอร์เช่ ประเทศเยอรมนี เตรียมเปิดโลกยนตรกรรมสปอร์ตสัญชาติเยอรมันที่จัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์คนรักความแรงในสไตล์แบบปอร์เช่พร้อมด้วยโปรแกรมขับขี่ในสถานีที่ออกแบบขึ้นเพื่อเสริมสร้างทักษะในการควบคุมรถยนต์ ให้การทดสอบการขับขี่เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ โดยเน้นการ ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาจากรถแข่งในกีฬามอเตอร์สปอร์ตซึ่งถูกถ่ายทอดมาไว้ในรถปอร์เช่ทุกคัน ซึ่งรถในกิจกรรมครั้งนี้จะมาอย่างครบครันทุกรุ่น ถูกส่งตรงจากโรงงานปอร์เช่ เยอรมนี กว่า 26 คัน อาทิ 911 GT3, 911 Targa 4, 911 Turbo S Coupe, 718 Boxster S, 718 Cayman GTS, Panamera GTS, Panamera 4, Cayenne Turbo, Macan GTS รวมทั้ง Taycan Turbo และ Taycan Turbo S ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากแฟนพันธุ์แรงของคนรักรถเข้าร่วมงานไม่แพ้ปีก่อนๆ อย่างแน่นอน โดยในช่วงงานปีนี้เราตั้งเป้ายอดจองอยู่ที่ 24 คัน”

คุณปวราภา ดุพัสกูล ผู้อำนวยการแผนกการตลาดและประชาสัมพันธ์ ปอร์เช่ ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปีนี้การจัดกิจกรรม Porsche World Roadshow 2021 เราจำเป็นต้องเข้มข้นกับมาตรการ การเตรียมพร้อมในความปลอดภัยจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วยมาตรการหลักสำคัญ DMHT เช่น ทำความสะอาดฆ่าเชื้อรอบบริเวณรถทุกครั้งที่มีการใช้เพื่อทดสอบสมรรถนะ, การตรวจคัดกรองพนักงาน กำหนดให้ผู้เข้าร่วมงานและพนักงานทุกคนใส่หน้ากากอนามัยและเว้นระยะห่างอย่างสม่ำเสมอ และเพื่อให้ลูกค้ามีความมั่นใจในบริการ พนักงานทุกคนได้รับวัคซีนครบโดสเรียบร้อยแล้ว สำหรับกิจกรรมในการทดสอบสมรรถนะของรถปอร์เช่ในสนาม ประกอบด้วยสถานี Handling การทดสอบบังคับควบคุมรถซึ่งจะทดสอบการทรงตัวและการตอบสนองอย่างฉับไวของพวงมาลัย เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสถึงอาการของรถเมื่อมีการเปลี่ยนทิศทางหรือการเลี้ยวอย่างรวดเร็ว ในสถานีนี้จะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการยึดเกาะถนน และระบบช่วงล่างของรถยนต์ปอร์เช่ สถานี “Braking & Slalom” ผู้ขับขี่จะได้พบกับระบบเบรกที่มีความปลอดภัยสูงสุดของรถยนต์ปอร์เช่ทั้งระบบรักษาเสถียรภาพ ระบบป้องกันการลื่นไถลบนท้องถนน และเรียนรู้วิธีการควบคุมรถยนต์โดยใช้พวงมาลัยหักหลบสิ่งกีดขวางบนถนน พร้อมกับการควบคุมทิศทางที่แม่นยำและความคล่องตัวของรถขณะเข้าโค้งทางแคบด้วยความเร็ว รวมถึงศักยภาพการทรงตัวของรถยนต์ปอร์เช่ที่เป็นเลิศ สถานี “Moose Test” จะได้ทดสอบประสิทธิภาพของระบบ Porsche Stability Management (PSM) ซึ่งผู้ขับขี่จะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของเสถียรภาพการทรงตัวของรถเมื่อเปิดและปิดระบบ PSM ได้อย่างชัดเจน ถัดมาที่การขับขี่แบบ E-Performance Road Tour เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สัมผัสสุนทรียภาพและความเหนือระดับของการขับขี่รถยนต์ปอร์เช่ทดสอบสมรรถนะระบบขับเคลื่อนของ E-Hybrid ในบรรยากาศจริงบนถนนสาธารณะอย่างแน่นอน ปิดท้ายกิจกรรมทดสอบการขับขี่สุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยสถานี “Taxi Laps” ซึ่งเป็นสถานีพิเศษเพื่อเอาใจผู้เข้าร่วมงานทุกท่านรวมถึงผู้ติดตามให้ได้ร่วมสนุกกับการนั่งทดสอบสมรรถนะของรถแข่งจากปอร์เช่


