Bitget ยืนหนึ่งเดือน พ.ค.เงินไหลเข้าสูงสุดในแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
ขณะที่ Open Interest ตลาดอนุพันธ์เติบโตมากกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
Bitget เปิดสถิติเดือนพฤษภาคมครองแชมป์ แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามากที่สุดที่ 975.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงปริมาณการเปิดสัญญาซื้อขายตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น 39.2% สูงที่สุดในอุตสาหกรรม แม้ว่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในเดือนพฤษภาคมจะมีความผันผวน
นางสาวเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่าขณะที่ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในภาพรวมยังมีความผันผวนแต่ยังสามารถสร้างสถิติการไหลเข้าของเงินทุนสูงสุดในบรรดาแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Centralized Exchange ทั้งหมดในเดือนพฤษภาคมที่ 975.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูล on-chain จาก DeFiLlama
นอกจากนี้ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำในด้านตลาดอนุพันธ์ แม้ว่าปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด Spot และอนุพันธ์บนแพลตฟอร์ม centralized exchange ทั้งหมดจะลดลง 20.1% เหลือที่ 5.27 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤษภาคม ตามรายงานของ CCData แต่ยอดการเปิดสัญญาซื้อขายของ Bitget หรือ Open Interest เพิ่มขึ้น 39.2% แตะที่ 9.74 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม
ขณะเดียวกัน Bitget ได้ลิสต์โทเค็นใหม่กว่า 62 โทเค็นซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึงระดับตั้งแต่ 260% ถึง 1430% สะท้อนถึงกลยุทธ์เชิงรุกของ Bitget ในการตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาด และยังเน้นย้ำถึงศักยภาพอันมหาศาลสำหรับผลตอบแทนที่คุ้มค่าภายในระบบนิเวศของ Bitget
รวมถึงเพิ่มโทเค็นใหม่ 19 โทเค็นบน PoolX แพลตฟอร์มสำหรับการ Staking และการสร้างผลตอบแทน ซึ่งดึงดูดผู้เข้าร่วมกว่า 120,381 คน ด้วยเม็ดเงิน Stake รวม 427 ล้าน USDT
เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Bitget ยังได้แต่งตั้ง Gracy Chen เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คนใหม่ซึ่งเป็นสุภาพสตรีคนแรกในอุตสหากรรมที่นั่งตำแหน่งบริหารสูงสุดขององค์กร รวมถึงเปิดตัวแคมเปญ Elite Traderและร่วมฉลองวัน Pizza Day
นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าวด้วยว่า Bitget ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโปรดักต์ทั้งด้านของแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรวมถึง Web3 ผ่าน Bitget Wallet เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าจะมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นในครึ่งปีหลังนี้จากนโยบายการเงินของสหรัฐฯที่ผ่อนคลายลงรวมถึงแรงกระตุ้นจากการที่สหรัฐฯผ่อนคลายความเข้มงวดของกฎระเบียบเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลลง