เผยผลสำรวจ 3 ข้อพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองของคนไทย
Carsome แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับรถยนต์มือสองครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผย 3 สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองของผู้บริโภคชาวไทย พบว่าผู้บริโภค 3 ใน 4 มองหาราคาที่สมเหตุสมผล (75%) ในขณะที่ 3 ใน 5 ตรวจสอบลักษณะและสภาพรถยนต์โดยละเอียด (57%) และเกือบครึ่งมองว่าบริการหลังการขาย (46%) ถือเป็นข้อควรพิจารณาที่สำคัญในการเลือกซื้อรถยนต์มือสอง
ผลสำรวจจาก Carsome เกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อรถยนต์มือสองและความชอบของผู้ขับขี่ในประเทศไทยหรือ Carsome Car Purchase Preference1 ยังเผยให้เห็นถึงสิ่งที่ผู้บริโภคชาวไทยต้องการเมื่อซื้อรถมือสอง โดยสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ 5 อันดับแรก ได้แก่ ความโปร่งใสด้านราคา 52% การขยายระยะเวลาการรับประกัน 45% และการรับประกันคืนเงินภายใน 5 วัน 34%
คุณปภัสรินทร์ สิริบรรลือยศ Country Head ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เรามุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาของลูกค้าและปรับปรุงประสบการณ์การซื้อรถยนต์สำหรับผู้บริโภคชาวไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายของเราที่จะช่วยสร้างความอุ่นใจให้ลูกค้าผ่านรถยนต์ที่ได้รับการรับรองจาก Carsome ตั้งแต่เปิดตัว เราพบว่าการรับฟังความต้องการของลูกค้ามีอิทธิพลอย่างมากต่อการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของ Carsome ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าคำตอบจากผลสำรวจถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการจากการซื้อรถยนต์มือสองได้ถูกสะท้อนอยู่ใน Carsome Promise เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับการประกันคุณภาพ ความโปร่งใส และบริการที่ลูกค้าต้องการ”
Carsome ได้เปิดตัววิธีการซื้อรถยนต์รูปแบบใหม่ให้กับกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทย หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดตัวที่มาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว โดยมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่ยุ่งยากและราบรื่นให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งรถยนต์ที่ได้รับการรับรองจาก Carsome ทุกคันมาพร้อมกับ Carsome Promise ที่มอบสิทธิประโยชน์ 4 ประการให้กับลูกค้า ได้แก่ การรับประกันคืนเงินภายใน 5 วัน การตรวจสอบรถยนต์ 175 รายการอย่างมืออาชีพ การรับประกันหนึ่งปี และราคาคงที่โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
จากการสำรวจพบว่า การหารถที่ใช่ในราคาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่เป็นที่ต้องการของผู้ซื้อรถยนต์ใหม่และรถยนต์มือสองมากที่สุด ซึ่งผู้นำได้แก่ โตโยต้า 77% และฮอนด้า 63% โดยประเภทรถที่ต้องการมากที่สุดในกลุ่มผู้ซื้อรถยนต์มือสอง ได้แก่ SUV 29% รถเก๋ง 26% และรถกระบะ 21%
ในขณะที่ 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่า งบประมาณสำหรับรถยนต์ใหม่อยู่ระหว่าง 800,000 ถึง 2,000,000 บาท ซึ่งลดลงอย่างมากสำหรับการซื้อรถยนต์มือสอง โดยมากกว่า 2 ใน 3 ของผู้ซื้อรถยนต์มือสอง (68%) ระบุงบประมาณของตนว่าอยู่ระหว่าง 200,000 ถึง 600,000 บาท ซึ่ง 52% ของผู้ซื้อรถยนต์มือสองที่ตอบแบบสำรวจ มีรายได้ต่อเดือนระหว่าง 15,001 ถึง 35,000 บาท
“ในช่วงเวลาที่ยากลำบากในขณะนี้ Carsome ได้ปรับตัวอย่างรวดเร็วและมีกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เราได้นำเสนอบริการใหม่เพื่อให้ลูกค้ายังคงมั่นใจในการซื้อในภาวะวิกฤตเช่นนี้” คุณปภัสรินทร์ กล่าวเสริม
ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 Carsome ได้จัด เฟซบุ๊ค ไลฟ์ พร้อมแฟลชเซลล์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อรถได้จากที่บ้านได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้บริษัทยังได้เปิดตัว Test Own บริการที่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถซื้อรถที่ต้องการและทดลองขับที่บ้านได้เป็นเวลา 5 วัน และหากไม่พอใจก็สามารถส่งคืนเพื่อขอเงินคืนเต็มจำนวน
ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อแบบดิจิทัลโดยดูรถยนต์ผ่านเว็บไซต์ของ Carsome หรือการเลือกผ่าน e-catalogue ที่ Carsome Experience Center สาขาบางบอน
1 จากผลสำรวจผู้บริโภคคนไทย 857 คน ผ่านช่องทางออนไลน์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม 2564