เอ็มจี ตอกย้ำความยอดเยี่ยมด้านเทคโนโลยี ความทันสมัย และความคุ้มค่า ของ MG HS PHEV และ MG EP ด้วยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี “Car of the Year 2021”

บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี ในประเทศไทย โดย นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่ารถยนต์พลังงานทางเลือกสองรุ่นล่าสุดของบริษัทฯ ได้แก่ NEW MG HS PHEV รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Plug-in Hybrid และ NEW MG EP รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า100% ได้รับการรับรองคุณภาพความยอดเยี่ยม ด้านเทคโนโลยี ความทันสมัย และความคุ้มค่า จากการตัดสินรางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี” หรือ “Car of the Year 2021” จัดโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) โดยรางวัลที่ได้รับในปีนี้ประกอบด้วย

MG – Car of the year 2021 – NEW MG HS PHEV
  • NEW MG HS PHEV    ได้รับรางวัล  BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 c.c. 
  • NEW MG EP               ได้รับรางวัล  BEST 5 Door EV SPORT HATCHBACK

ทั้งนี้ เอ็มจีมีแผนส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยได้ใช้งานรถยนต์พลังงานทางเลือกโดยเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างชัดเจนด้วยการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมาเอ็มจีได้แนะนำ NEW MG HS PHEV รถยนต์ SUV ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริด และ NEW MG EP รถยนต์สไตล์สเตชั่นแวกอนขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% สู่ตลาดเมืองไทยภายหลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากการแนะนำ NEW MG ZS EV ในปีก่อนหน้ายิ่งไปกว่านั้นยังเดินหน้าสนับสนุนการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้คนไทยได้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้ง่ายยิ่ง ทำให้ปัจจุบันเอ็มจีได้กลายเป็นผู้นำในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงกว่า 80% 

MG – Car of the year 2021 – NEW MG EP

สำหรับการมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ“Car of the Year 2021” จัดโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)เป็นการคัดเลือกรถยนต์ที่มีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ผ่านการพิจารณาให้คะแนนของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งจะพิจารณาใน 2 ส่วน โดยส่วนแรกเป็นการให้คะแนนตามหัวข้อต่างๆ ประกอบด้วย สมรรถนะของเครื่องยนต์และระบบต่างๆ ความปลอดภัย เทคโนโลยี ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบ และความคุ้มค่า และส่วนที่สองเป็นคะแนนจากสมรรถนะในการขับขี่ในสนามทดสอบจำลอง โดย NEW MG HS PHEV และ NEW MG EP สามารถทำคะแนนใน 2 ส่วนได้อย่างโดดเด่นและคว้ารางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือCar of the Year” ประจำปีนี้ มาครองได้อย่างเอกฉันท์ ตอกย้ำความยอดเยี่ยมด้านเทคโนโลยี ความทันสมัย และความคุ้มค่า ของ NEW MG HS PHEV และ NEW MG EP ได้เป็นอย่างดี

ในภาพ : นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 1 จากขวา) รับมอบรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี “CAR OF THE YEAR 2021” โดย NEW MG HS PHEV ได้รับรางวัล BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 c.c. และ NEW MG EP ได้รับรางวัล BEST 5 Door EV SPORT HATCHBACK จาก นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (ยืนกลาง) โดยมีนายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน CAR OF THE YEAR 2021 และประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (ที่ 1 จากซ้าย) ให้เกียรติในการมอบรางวัล

“NEW MG HS PHEV”:  BEST HYBRID SUV UNDER 1,600 c.c.

NEW MG HS PHEV ชูแนวคิด “REFINEMENT” พร้อมขับเคลื่อนทุกคุณค่าของชีวิต โดยสะท้อนถึงความเหนือระดับทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ วัสดุพรีเมี่ยม ระบบขับเคลื่อนที่ใช้เทคโนโลยี Plug-in Hybrid ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion แบบโมดูลขนาดใหญ่ 16.6 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูง (Advanced Synchronized Protection System) มากถึง 25 ระบบ ซึ่งรวมถึงระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS (Advanced Driver Assistance System) ซึ่งเทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับที่ 2 (Autonomous Level 2 : Partial Automations) โดยเปิดราคาจำหน่ายที่ 1,359,000 บาท

“NEW MG EP”: BEST 5 Door EV SPORT HATCHBACK

NEW MG EP รถสไตล์สเตชั่นแวกอนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในประเทศไทย ที่มาพร้อมแนวคิด “EVeryone ตอบโจทย์ทุกฟังก์ชัน รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของทุกคน” วางตำแหน่งเป็น “เกณฑ์มาตรฐาน” ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้ทุกรูปแบบ ผสาน 4 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ มิติตัวถังและพื้นที่การใช้งานมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย ที่ครบครัน สมรรถนะที่เปี่ยมประสิทธิภาพ จากแบตเตอรี่ที่มีความจุขนาด 50.3 kWh ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง และมีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่ 163 แรงม้า รวมถึงต้นทุนในการเป็นเจ้าของที่ต่ำ ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำ         สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว โดยเปิดราคาจำหน่ายที่ 988,000 บาท