‘นินจา’ ในประเทศไทย เจ้าแห่งการทำงานในโลกยุคดิจิทัล
ไมโครซอฟท์ประเทศไทย เผยผลสำรวจเทรนด์คนออฟฟิศปัจจุบัน มุ่งหน้าเข้าสู่ปี 2020 ด้วยการทำงานที่จะยืดหยุ่น ทำงานร่วมกันแบบกระชับฉับไว ให้ได้งานมากที่สุด
- 100% ของผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศไทย พบว่า กลุ่มคนทำงานเบบี้บูมเมอร์ จนถึงกลุ่มเยาวชนกลุ่มเจเนอเรชั่น Z มีไลฟ์สไตล์การทำงานแบบ นินจา ที่ชอบการทำงานแบบมีอิสระและมีความยืดหยุ่นระดับสูง แต่ยังสามารถร่วมงานกับทุกคนไม่ว่าไกลใกล้ได้เพื่อผลงานที่ดีที่สุด
- สิ่งที่จำเป็นทีสุดในปีหน้าคือ เครื่องมือการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่มีความปลอดภัยระดับสูง เพื่อสร้างความยืดหยุ่น และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้ก้าวไปอีกขั้น
- 2 ใน 4 เจเนอเรชั่น ยังคงรักษาระเบียบการทำงานแบบดั้งเดิม แต่มีการนำเทคโนโลยีการทำงานสมัยใหม่เข้ามาปรับใช้ เพื่อเสริมสร้างผลิตผลของงานให้ออกมามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- กลุ่มวัยรุ่นในเจเนอเรชั่นใหม่ถือเป็นยอดนักไอเดียของยุคที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนพลังในการทำงาน
ในปัจจุบัน เมื่อสิ่งต่างๆมีการหมุนเวียนไปตามความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี ยุคสมัยของการทำงานแบบเดิมๆจึงเริ่มเคลื่อนเข้าสู่โลกเชิงดิจิทัลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะวิถีชีวิต ความคิด ทัศนคติและไลฟสไตล์การทำงานของผู้คนจากต่างวัยที่เริ่มมีการปรับตัวให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเปลี่ยนแปลงคงเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก เครื่องมือการสื่อสารระหว่างคนในองค์กรและนอกองค์กรนั่นเอง
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเป็นกำลังพื้นฐานในการทำงานของผู้คนในยุคปัจจุบัน เทรนด์การทำงานร่วมกัน (Collaboration) จึงเปลี่ยนแปลงไปภายใต้คอนเซ็ปต์ Independent but Collaborative ซึ่งหมายความว่าผู้คนหันมาใส่ใจพื้นที่ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการทำงานมากยิ่งขึ้น แต่การหันมามีไพรเวทสเปซของตนเองในครั้งนี้ก็ไม่ได้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานให้ลดลงแต่อย่างใด เพียงแต่ผู้คนนั้นหันมาสนใจเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆที่สามารถตอบโจทย์การทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
จากผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย ทีม ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ผ่านเกมทดสอบความเป็นตัวเองในที่ทำงาน (Personality Test) ที่แบ่งไลฟสไตล์การทำงานออกเป็นทั้งหมด 7 ประเภท โดยมีผู้เข้าร่วมเล่นจำนวนมากกว่า 1,000 คน จากทั่วประเทศไทย พบว่า 20 % ของผู้ตอบแบบสอบถามได้ผลสรุปเป็น ไอเดียตัวแม่ ไอเดียตัวพ่อ (The Ideamaker), 21% เป็น ครูเจ้าระเบียบ ฝ่ายปกครองมาเอง (The Ruler), 10% เป็น เดอะบอส (The Executive), 7% เป็น นักบุญ แม่พระ (The Guardian), 12% เป็น หน่วยข่าวกรอง (The Socialite), 28% เป็น นินจาซุ่มเงียบ (The Ninja) และ 2% เป็น รุ่นเดอะ AKA เดอะไดโนเสาร์ (The Dinosaur) ตามลำดับ
โดยในแบบสอบถามยังได้แบ่งกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามออกเป็นทั้งหมด 4 เจอเนอเรชั่น ได้แก่ กลุ่มเบบี้บูมเมอร์, กลุ่มเจนเนอเรชั่น X, Y และ เจเนอเรชั่น Z โดยหลังจากได้นำผลสรุปที่ได้มาวิเคราะห์ จะเห็นถึงข้อบ่งชี้ที่ว่าเทรนด์การทำงานบนโลกแห่งยุคอนาคตใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนำไปสู่เทรนด์ในการทำงานปี 2020 ได้ตามข้อสรุปดังต่อไปนี้
นินจาไทย เก่งกาจกว่าใครในยุค 2020
จากผลสำรวจพบว่า ทุกเจเนอเรชั่นได้ผลสรุปอันดับหนึ่งออกมาเป็นไลฟสไตล์การทำงานแบบ ‘นินจา’ คิดเป็นจำนวนกว่า 28% จากผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ซึ่งสอดคล้อง ไปกับเทรนด์การทำงานบนโลกยุคดิจิทัล ได้แก่ การที่ผู้คนชอบทำงานบนพื้นที่ความเป็นอิสระและความเป็นส่วนตัวของตนเองมากยิ่งขึ้น หรือสามารถเรียกในอีกมุมหนึ่งได้ว่าผู้คนเริ่มหันมานิยมไลฟสไตล์การทำงานแบบ Mobile Working นั่นหมายถึง การที่คุณสามารถทำงานจากที่ไหนบนโลกก็ได้ เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเท่านั้น โดยคุณเองยังสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอีกด้วย
เจ้าแม่ระเบียบจัด ที่จัดสรรชีวิตแบบไฮเทค
ลำดับต่อมา จากผลสำรวจในแต่ละเจนเนอเรชั่น พบว่า 31% ในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ และ 22 % ในกลุ่มเจนเนอเรชั่น X ได้ข้อสรุปลำดับที่สองว่ามีไลฟ์สไตล์การทำงานแบบ ‘ครูเจ้าระเบียบ’ ซึ่งก็เปรียบได้ว่ากลุ่มคนในช่วงอายุนี้ยังคงรักษาระบบการทำงานแบบดั้งเดิมเอาไว้ โดยมีการยึดกฎเกณฑ์และการทำงานขององค์กรเป็นหลัก เพียงแต่มีการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินงานโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย อาทิ การเริ่มใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการริเริ่มสร้างสรรค์ผลงานหรือชิ้นงานของตนเองผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น
ไอเดียบรรเจิด โก้ หรูกว่าใคร ต้องยกให้เจน Y และ เจน Z
ในขณะเดียวกัน จากผลสำรวจในแต่ละเจนเนอเรชั่น พบว่า 21% ของทั้งกลุ่มเจเนอเรชั่น Y และ Z ได้ผลลัพธ์รวมอันดับสองออกมาเท่ากัน เป็นไลฟสไตล์การทำงานแบบ ‘ไอเดียตัวแม่ และไอเดียตัวพ่อ’ สอดคล้องไปกับวิถีการทำงานของกลุ่มวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่มีอิสระทางความคิด มีไอเดียใหม่ๆและไฟในการทำงานอยู่เสมอ ซึ่งผู้ที่มีไลฟ์สไตล์การทำงานเช่นนี้ มักที่จะชอบต่อยอดไอเดียของตัวเองให้ไปจนถึงจุดสูงสุดเพื่อหาค้นหาคำตอบในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
จากผลสำรวจดังกล่าว จึงสามารถกล่าวได้ว่า ไม่ว่าทุกคนจะอยู่ในเจเนอเรชั่นไหน แต่ด้วยโลกใบใหม่ที่ขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผู้คนจึงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีมากขึ้น การทำงานใน Workplace จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงไปผ่านการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงวิถีการดำเนินงาน เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับชิ้นงานของตนเอง ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นนินจา ครูเจ้าระเบียบ ไอเดียตัวแม่ไอเดียตัวพ่อ หรือไดโนเสาร์ก็ตาม คุณเองก็ไม่สามารถปฏิเสธไปได้เลยว่าเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างโอกาสให้แก่อนาคตการทำงานของคุณให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีกหลายเท่า
คำตอบสุดท้ายของเครื่องมือยุคใหม่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การทำงานในแพลตฟอร์มเดียว
Microsoft Teams (ไมโครซอฟท์ ทีมส์) ถือเป็นเครื่องมืออีกชนิดหนึ่งที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในองค์กรไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นองค์การทำงานขนาดเล็กจนไปถึงขนาดใหญ่ โดย ทีมส์ เป็นเครื่องมือการทำงานร่วมกันทั้งสำหรับทั้งคนในองค์กรและคนนอกองค์กร แต่เน้นความปลอดภัย คล่องตัว และปรับใช้ได้อย่างเฉพาะตัวตามวิถีการใช้งานของแต่ละบุคคล เพื่อยกระดับการทำงานในชีวิตยุคนี้อย่างแท้จริง
และจากแนวโน้มของวิถีการทำงานที่ได้ข้อสรุปมาเบื้องต้น ไมโครซอฟท์ ทีมส์ จึงถือว่าเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดที่จะทำให้ชีวิตการทำงานแบบเดิมๆของคุณเปลี่ยนแปลงไป จากการที่ต้องนั่งโต๊ะทำงานทั้งวัน เปลี่ยนเป็นการทำงานร่วมกันจากที่ไหนก็ได้ ด้วยฟีเจอร์ดีๆของทีมส์นี้เองที่จะมาช่วยตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน อาทิ
- เป็นเครื่องมือการสื่อสารที่สามารถ แชท วีดีโอคอล แชร์และแก้ไขงานพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้แบบเรียลไทม์ ไม่ต้องมานั่งง้อให้มาเจอกันครบทุกคน ทีนี้หมดข้ออ้างในการขาดประชุมไปได้เลย!
- เป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยระดับสูง ใครก็ไม่สามารถเข้าทีมส์ของคุณได้หากคุณไม่อนุญาต ดังนั้นจงมั่นใจว่าข้อความหรือไฟล์งานของคุณจะถูกเก็บไว้ พร้อมฟีเจอร์ Private Channel กลุ่มลับเฉพาะที่มีคุณเท่านั้นที่จะเชิญหรือลบสามาชิก !
- เป็นเครื่องมือที่รวบรวมแอปพลิเคชันไว้ได้เยอะที่สุดเพื่อช่วยคุณในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นแอปฯพื้นฐานที่มีอยู่บน Office 365 เช่น Microsoft Word, Excel, PowerPoint หรือพื้นที่ไว้ละเลงไอเดียอย่าง OneNote ตลอดจนแอปพลิเคชันอื่นๆอีกมายมายที่คุณสามารถดาวน์โหลดเพิ่มเข้ามาได้เอง รวมทั้งฟีเจอร์ Powered App แอปฯ เฉพาะสำหรับองค์กรของคุณ
- เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้วางแผนชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการแพลนงานระหว่างวันของตนเองผ่านฟีเจอร์ Calendar หรือแม้กระทั่งเช็คตารางงานกลุ่มเพื่อนในทีมผ่าน Planner
- ที่สำคัญ ไมโครซอฟท์ ทีมส์ ยังเป็นเครื่องมือที่เรียกได้ว่า Mobile Friendly สุดๆ คือสามารถใช้งานได้ทั้งจากหลายหลายดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็น โน๊ตบุ๊ค สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ Wearable ต่างๆ งานนี้จิบกาแฟไป นั่งทำงานไป ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าที่สุด !
จากที่กล่าวมา นี่เป็นเพียงน้ำจิ้มของความสามารถสุดพิเศษบน ไมโครซอฟท์ ทีมส์ เท่านั้น ในความเป็นจริงแล้ว ทีมส์สามารถเป็นได้มากกว่าเพียงเครื่องมือการสื่อสารแบบเดิมๆที่คุณคิด ในเมื่อโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเข็มนาฬิกาที่หมุนไป ทำไมตัวคุณเองถึงจะไม่กล้าที่จะลองสิ่งใหม่ๆที่แตกต่างออกไป จะเสียโอกาสของชีวิตพลาดเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ไปได้อย่างไร ดาวน์โหลดไมโครซอฟท์ ทีมส์ เลย ที่นี่ เพื่อทดลองใช้กันแบบฟรีๆ หรือจะสอบถามมายังเฟสบุคของไมโครซอฟท์ประเทศไทย แล้วคุณจะพบว่าการเป็นนินจาในโลกการทำงานยุคดิจิทัลนี้ พนักงานดีเด่นอยู่ไม่ไกลเอื้อมมือคุณ !