เจาะลึก เฟ่ยเฟ่ย-พิสินี ผู้กำกับ MV ถึงแนวคิดเบื้องหลังโฆษณาสายแฟสุดแนวกับ Samsung Galaxy Z Flip5 ที่ร่วมแสดงโดย มาริโอ้-เมาเร่อ

พูดคุยแบบเจาะลึกกับ เฟ่ยเฟ่ย-พิสินี ผู้กำกับ MV มากความสามารถ ถึงแนวคิดเบื้องหลังภาพยนตร์โฆษณาสายแฟสุดแนวกับ Samsung Galaxy Z Flip5 ที่ได้พระเอกหนุ่มหล่อมากความสามารถอย่าง มาริโอ้-เมาเร่อ มาร่วมแสดง

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 28 สิงหาคม 2566 – หลังจากที่มีการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาจากซัมซุง นำเสนอความเก่งและยังเป็นแฟชั่นไอเท็มของ Samsung Galaxy Z Flip5 ไป ซึ่งตัวภาพยนตร์โฆษณาตัวนี้มีความเก๋ และแปลกใหม่กว่าโฆษณาโทรศัพท์มือถือที่ผ่านๆ มา เพราะได้เฟ่ยเฟ่ย-พิสินี ผู้กำกับมิวสิควิดีโอมากความสามารถ ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักกว้างขวางอย่างการกำกับมิวสิควิดีโอเพลง ‘ธาตุทองซาวด์’ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้นักแสดงหนุ่มชื่อดัง ‘มาริโอ้-เมาเร่อ’ มาเป็นตัวเอกในภาพยนตร์โฆษณาชิ้นนี้ ซึ่งหลังจากมีการปล่อยผลงานชิ้นนี้ออกมาก็ได้รับผลตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยมียอดเข้าชมใน YouTube มากถึง 6.8 ล้านครั้ง ซัมซุงจึงได้ทำการสัมภาษณ์เพื่อพูดคุยแบบเจาะลึกกับผู้กำกับ ‘เฟ่ยเฟ่ย’ กับผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นนี้

แรงบันดาลใจและคอนเซปต์ จากการเห็น Galaxy Z Flip5 ครั้งแรก

ครั้งแรกที่ได้เห็น Galaxy Z Flip5 รู้สึกตราตรึงใจกับความสวยละมุน และคาแรคเตอร์การพับที่ชัดมาก ทำให้นึกถึงโทรศัพท์เครื่องแรกๆ ที่เคยใช้ แต่การพับได้หายไปเพราะการมาถึงของสมาร์ทโฟนแบบที่เราใช้กันในปัจจุบัน และความรู้สึกพับนี้กลับมาอีกครั้ง จึงรู้สึกว่าอยากสร้างภาพยนตร์โฆษณาที่ใหม่ มันส์ ให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นเหมือนตอนวัยรุ่นที่เรามีโทรศัพท์เครื่องแรกๆ โดยคอนเซปต์ของโฆษณาตัวนี้ ได้นำเรื่องกีฬามาเล่น การขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแรง ต่อสู้ และหลบหลีก ซึ่งใช้การพับด้วยกันทั้งนั้น โดยเล่าเป็นเรื่องของการเดินทางของคนๆ นึง ที่เดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ผ่านอุปสรรคมากมาย แม้จะไม่ใช่อุปสรรคใหญ่ แต่เป็นปัญหาที่ต้องเจอทุกวัน ยกตัวอย่างเปรียบเทียบกับการขับรถ หลงทาง ต้องเปิดแมพ เป็นปัญหาที่เล็กมาก แต่เราต้องเจอกันอยู่บ่อยๆ และการที่เราก็มี Z Flip5 มีจอนอกที่ใหญ่สามารถใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้โดยที่ยังไม่ต้องกางออก จะช่วยให้เรามีชีวิตที่สะดวกขึ้นกว่าเดิม

ทำไมถึงรับทำภาพยนตร์โฆษณาของซัมซุง

มันเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ สำหรับเฟ่ย เพราะภาพยนตร์โฆษณาตัวนี้ ไม่ใช่ตัวแรกที่ได้ทำงานกับซัมซุง โดยได้เคยร่วมงานกันสมัย Galaxy Note 10 แต่ในครั้งนี้ที่ได้ทำไม่ใช่โฆษณาที่โชว์ความเป็นฟีเจอร์ทั่วไป รู้สึกอยากลองทำอะไรใหม่ๆ ให้กับ   ซัมซุง สร้างการเล่าเรื่องแบบใหม่ๆ รู้สึกท้าทายมากๆ เลยอยากทำ ลุย!

ทำไมต้องให้มาริโอ้เตะฟุตบอล

เฟ่ยรู้สึกว่ากีฬาฟุตบอลที่เรารู้จักกัน เห็นกันอยู่ทุกวัน เป็นกีฬาที่เซ็กซี่ ทุกท่วงท่า การวอร์ม การยกขา การเดาะบอล ทุกการเคลื่อนไหวมันเหมาะกับการพับไปหมด ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ได้มีการพัฒนามาก็เกิดจากการนำเรื่องใกล้ตัวพวกนี้มาปรับใช้ทั้งนั้น ประกอบกับในยุคสมัยนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้จะเป็นอะไรที่ดูผิดที่ผิดทาง อะไรที่เราคิดว่ามันจะไม่เข้ากัน อย่างราเม็งที่ใส่ไอศกรีม มันก็เกิดขึ้นได้ หนังเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน เฟ่ยได้เอาไอเดียตรงนั้นมาคิดต่อและทำให้เหมาะกับมาริโอ้ และ Galaxy Z Flip5 มากที่สุด

กิมมิคแฟชั่นของเฟ่ยเฟ่ยที่ถูกแทรกลงไปในโฆษณา Galaxy Z Flip5 ที่เป็นเหมือนแฟชั่นไอเท็ม

จริงๆ ก็ไม่ถึงกับเป็นกิมมิคทางแฟชั่นอะไร แต่มันเป็นเหมือนการสอดแทรกความไม่ตรงไปตรงมาในภาพยนต์โฆษณาชิ้นนี้มากกว่า เป็นเหมือนความผิดที่ผิดทางที่ถูกเซ็ตขึ้นตามนิสัยส่วนตัว กับการตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมเรายังต้องเตะบอลอยู่ที่สนามอย่างเดียว หรือคอสตูมของมาริโอ้ ที่เป็นเฟอร์ แม้กระทั่งลูกบอลที่เป็นบอลดิสโก้ เฟ่ยคิดว่าทำไมคนจะทำแบบนี้ไม่ได้ โลกนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ เลยออกมาเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ทุกคนเห็นกัน

ฟีเจอร์ไหนของ Galaxy Z Flip5 ที่โดนใจผู้กำกับมากที่สุด

เมื่อได้ลองใช้ ต้องบอกเลยว่า จอนอกที่ใหญ่คือที่สุด! จริงๆ เคยอยากใช้เพราะเป็นโทรศัพท์ฝาพับ แต่การที่มีจอนอกที่ใหญ่ และสามารถใช้ได้โดยไม่ได้ต้องกางออกคือที่สุด เลิศทั้งฟังก์ชั่นและสไตล์ มีทั้งความย้อนยุคไปสมัยก่อนที่เราคิดถึง ความรู้สึกของการมีโทรศัพท์เครื่องแรกได้กลับมาทันที Galaxy Z Flip5 เครื่องนี้มันสามารถบอกตัวตนและไลฟ์สไตล์ได้จริงๆ และที่สำคัญตอบโจทย์การทำงานเราด้วย ถ้าเป็นเมื่อก่อนก่อนคงอยากเอาไปพับโชว์เพื่อนตอนไปติวหนังสือแน่ๆ

และสุดท้ายการทำโฆษณาเพื่อสื่อสารกับ Gen Z มีวิธีการคุยหรือเล่าเรื่องอย่างไรที่จะเข้าถึงกลุ่มนี้

Gen z เข้าถึงไม่ยาก แต่ต้องเป็นภาษาที่พวกเขาจะเข้าใจ ซึ่งจริงอยู่ที่ว่า Gen Z เลือกที่จะฟังใครมากกว่ากัน โดยเฉพาะเรื่องเล็กๆ ของเรานั้นอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ของพวกเขา เราได้แต่คิดว่ารอวันที่พวกเขาโตมาสัมผัสเท่านั้น แต่มักลืมคิดไปว่าถ้าพวกเขายังอยู่ในวัยนี้ได้มาเจอเรื่องราวแบบนี้ เค้าจะทำอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร ความสนใจของพวกเขาดูยิ่งใหญ่และเรามักจะตัดสินไปแล้วว่ามันใหญ่เกินตัว แต่จริงๆ แล้วการสื่อสารหรือการทำโฆษณาเราอาจจะไม่ต้องเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมาก็ได้เพราะบางครั้งการที่เราสื่อสารแบบที่ทิ้ง Space ไว้ให้ได้คิดหรือให้ตีความต่อก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะสร้างความสนใจให้กับ Gen Z ให้พวกเขาได้ค้นหาต่อด้วยตนเอง ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าซับซ้อน แต่นี่คือเรื่องจริง

ใครยังไม่ได้รับชมภาพยนต์โฆษณาชิ้นนี้ ก็อย่าพลาดไปรับชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=UvP0wVsSOik แล้วมาลองพับแล้วจะพบกับความสนุกอีกมากมาย! พร้อมดูรายละเอียดสินค้าและโปรโมชั่นเพิ่มเติมที่ https://smsng.store/Galaxy_Z_Flip5

#GalaxyZFlip5 #GalaxyZFold5 #JoinTheFlipSide #Samsung